วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

4.การแต่งกายสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ

4.การแต่งกายสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
            Bord.postjung.com,2013ระบุว่า  พระมเหสีเทวีแต่โบราณเสวยพระกระยาหารต่างเวลากับพระมหากษัตริย์ ย่อมโปรดให้ข้าหลวงตั้งเครื่องเสวยของพระองค์เองก่อนหรือภายหลัง เพื่อมีเวลาถวายปรนนิบัติพระราชสวามีได้เต็มที่ เครื่องทรงเป็นภูษาจีบห่มผ้าปัก มีเครื่องประกอบยศขัตติยนารี

                อ้างอิง
Bord.postjung.com 2013. การแต่งกายของไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก: http://board.postjung.com/topic-421752.html [20พฤศจิกายน2556].



6.การแต่งกายสมัยอยุธยา(พ.ศ.๒๒๗๕-๒๓๐๑)

6.การแต่งกายสมัยอยุธยา(พ.ศ.๒๒๗๕-๒๓๐๑)
            Bord.postjung.com,2013ระบุว่า  ในสมัยอยุธยารัชกาลพระเจ้าบรมโกษฐ์ วรรณคดีไทยเฟื่องฟูมาก เช่น มีกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ซึ่งได้ใช้ขับเห่เรือพระที่นั่งมาจนปัจจุบัน การแต่งกายสตรีตามภาพพจน์นิพนธ์กล่าวว่า
คิดอนงค์องค์เอวอร       ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร
และ ผมเผ้าเจ้าดำขลับ       แสงยับยับกลิ่นหอมรวย
ประบ่าอ่าสละสลวย       คือมณีสีแสงนิล
 แสดงว่าสตรีนิยมไว้ผมยาว เจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎ พระราชธิดาสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐ์ได้นิพนธ์บทละครเรื่อง ดาหลังและอิเหนา ขึ้น ตามเค้าเรื่องที่ข้าหลวงเชื้อชาติมลายูเล่าถวาย

สิ้นรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ ประเทศไทยต้องทำศึกสงคราม การแต่งกายของสตรีจึงเปลี่ยนแปลงไป
ผมที่เคยไว้ยาวประบ่าก็ต้องตัดสั้น เพื่อสะดวกในการปลอมเป็นชายอพยพหลบหนี ห่มผ้าคาดอกแบบตะเบงมานรวบชายผูกเงื่อนที่ต้นคอ แสดงถึงหญิงไทย แม้จะเป็นเพศอ่อนโยนสวยงาม แต่ก็อาจปรับตัวรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ งานบ้านปรกติก็ต้องทำ เช่น ฝัดข้าวไว้หุง แต่พอมีสัญญาณภัยก็วางกะด้ง คว้าดาบ

อ้างอิง

Bord.postjung.com 2013. การแต่งกายของไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก: http://board.postjung.com/topic-421752.html [20พฤศจิกายน2556].

5.การแต่งกายสมัยต้นสมัยอยุธยา(พ.ศ.๑๘๙๓-๒๑๓๑)

5.การแต่งกายสมัยต้นสมัยอยุธยา(พ.ศ.๑๘๙๓-๒๑๓๑)
            Bord.postjung.com,2013ระบุว่า  พระเจ้าอู่ทอง ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา ศิลปะการดนตรีขับร้องและกลอนเพลงเฟื่องฟู ไทยเริ่มนุ่งโจงกระเบน แปลงจากทรงหยักรั้งอย่างขอม หญิงนุ่งจีบห่มสไบ มีผ้าห่มชั้นในอีกผืนหนึ่งห่มอย่างผ้าแถบสไบชั้นนอกใช้ผ้าเนื้อหนาก็ได้ ตามกฎมณเฑียรบาลสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถระบุว่า เมื่องานใส่เศียรเพชรมวยคือเกล้าไว้ที่ท้ายทอย "เกล้าหนูนยิกเกี้ยวแซม" คือ ผมเกล้าสูงไว้บนกระหม่อม
อ้างอิง
Bord.postjung.com 2013. การแต่งกายของไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก: http://board.postjung.com/topic-421752.html [20พฤศจิกายน2556].


วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

3.การแต่งกายสมัยสุโขทัย(๑๗๘๑-๑๘๒๖)

3.การแต่งกายสมัยสุโขทัย(๑๗๘๑-๑๘๒๖)
            Bord.postjung.com,2013ระบุว่า      อาณาจักรสุโขทัยเริ่มราว พ.ศ. ๑๗๘๑ เป็นระยะเวลาใกล้กับที่ไทยอีกพวกหนึ่งเรียกตัวเองว่า ปงหรือปา ไปก่อตั้งอาณาจักรอาหม บัดนี้คือมณฑลอัสสัมในอินเดีย พ่อขุนรามคำแหงแห่งสุโขทัย ทรงคิดตัวอักษรไทยขึ้น อิทธิพลทางวัฒนธรรมพราหมณ์และขอมแพร่มาถึงสตรีไว้ผมเกล้าสูง อย่างที่เรียกว่า โองขโดง คือรวบขึ้นไปเกล้ามวยกลางกระหม่อม มีเกี้ยวหรือพวงมาลัยสวม สนมกำนัลแต่งกรัชกายนุ่งห่มผ้าลิขิตพัสตร์ ผ้าสุวรรณพัสตร์ ประดับเครื่องอลังกาภรณ์ มีจดหมายเหตุบันทึกการแต่งกายสตรีว่า หญิงนุ่งผ้าสูงพ้นดิน ๒ - ๓ นิ้ว (กรอมเท้า) สวมรองเท้ากีบทำด้วยหนังสีดำสีแดง

อ้างอิง

Bord.postjung.com 2013. การแต่งกายของไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก: http://board.postjung.com/topic-421752.html [20พฤศจิกายน2556].

2. .การแต่งกายสมัยเชียงแสน(พ.ศ.๑๖๖๑-๑๗๓๑)

2. .การแต่งกายสมัยเชียงแสน(พ.ศ.๑๖๖๑-๑๗๓๑)
            Bord.postjung.com,2013ระบุว่า  อาณาจักรน่านเจ้าสิ้นสุดลง ชนชาติไทยเคลื่อนสู่แหลมอินโดจีนรวบรวมกันเป็นอาณาจักรใหม่ เรียกลานนาไทย หรือเชียงแสน ราว พ.ศ. ๑๖๖๑๑๗๓๑ เนื่องแต่เข้ามาอยู่ในเขตร้อน หญิงไทยจึงนุ่งซิ่นถุง แต่การทอผ้ามีลวดลายตกแต่งประดับประดา เช่น ซิ่นทอลายขวาง เกล้าผมสูง ปักปิ่นประดับผม
อ้างอิง
Bord.postjung.com 2013. การแต่งกายของไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก: http://board.postjung.com/topic-421752.html [20พฤศจิกายน2556].


1.การแต่งกายสมัยน่านเจ้า(พ.ศ.๑๑๖๑-๑๑๙๔)

1.การแต่งกายสมัยน่านเจ้า(พ.ศ.๑๑๖๑-๑๑๙๔)
            Bord.postjung.com,2013ระบุว่า    เมื่อชนชาติไทยอพยพเคลื่อนที่ลงมาสู่แหลมอินโดจีนโดยลำดับ จนได้ตั้งอาณาจักรไทยน่านเจ้าขึ้นเป็นอาณาจักรไทยแห่งหนึ่งที่หนองแสตาลีฟู หญิงไทยคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีทางการแต่งกายของตนไว้ ไม่ใช้ฝุ่นผัดหน้าหรือเขียนคิ้ว ใช้น้ำกลั่นจากต้นหม่อนทาผม หญิงผู้ดีนุ่งซิ่นไหม ใช้ผ้าไหมอีกผืนหนึ่งคาดเอวไว้ ผมมุ่นสูง บางทีถักเป็นเปียห้อยลงสองข้าง ใช้ต่างหูทำด้วยไข่มุก ทับทิมหรืออำพัน นิยมใช้รองเท้าฟาง

อ้างอิง

Bord.postjung.com 2013. การแต่งกายของไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก: http://board.postjung.com/topic-421752.html [20พฤศจิกายน2556].